วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สองหัวย่อมดีกว่าหัวเดียว Colleen ดินสอสีในวัยเด็ก

ยังจำดินสอสีสองหัวColleen กันได้อยู่หรือไม่ ใช้ทีไรเป็นต้องเสียวอีกหัวทิ้มตาเป็นทุกที เเต่ก็อดไม่ได้ ต้องครอบครองมันร่ำไป สมัยก่อนใครมีดินสอสีสองหัวมันย่อมชิคกว่ามีเเท่งเดียวสีเดียวเป็นไหนๆ จะระบายต้นไม้ หลังคาบ้านเพิงจาก ภูเขาสองลูก พระอาทิตย์ตก ควายหน้าโง่กลางทุ่งนา คุณยายกวาดพื้นหน้าบ้านก็ระบายมันเเท่งเดียวนิเเหละ ง่ายๆ ชิคๆ


เมื่อสุดสัปดาห์ไปเดินเล่นเเถวห้างTokyuเปิดใหม่ ที่Paradise Park อย่างงว่ามันอยู่เเถวไหน มนุษย์ฟากศรีนครินทร์คงรู้จักกันดี สินค้าที่นั่นเขาลดต้อนรับห้างใหม่กันอยู่ เเน่นอนว่าสายตาอันเฉียบคมส่องเห็นป้ายเเดงๆ 50% เเวบๆ วับๆ  ก็รีบโฉบเข้าไปดูให้เเน่ใจเสีย พุ่งตรงไปโซนเครื่องเขียน โถ่...หลอกให้เราเข้ามา ปากกาไม่เห็นลดเลย ไม่เป็นไรๆ เราเป็นเหยื่อโดยสมัครใจ เดินเล่นวนๆ จนยามเดินตามพอได้ที่ ก็เหลือบไปเห็นดินสอสี Colleen เขาบอกว่าสองสีใหม่ ฮ่าๆๆ 38บาท ก็หลุดลอยไปตามเคย


กลับบ้านกะว่าจะลองใช้สักหน่อย โถ่...มันยังไม่เหลามาให้ ต้องมานั่งเหลาเอง... หรือว่า! เขาอยากให้เด็กๆ ได้ฝึกวินัยเเบบนี่ ...ไม่น่าใช่


เหลาเสร็จเรียบร้อยก็หล่อเหลาไม่เบา ราคาก็เบา น้ำหนักก็เบา พกไปเที่ยวด้วยได้สบาย 


ลองทดสสอบสีดู โอ้! ไอเราก็ไม่ได้หยิบจับสียี่ห้อนี้มานาน สีมันมีพัฒนาการเเฮะ สมัยก่อนที่ยังระบายเป็นเเต่เเบบปื้นๆ เข้มๆ จำได้ว่าต้องฝนมันอยู่นานไม่เบากว่าจะทึบทั่วพื้นที่ เเต่เอ๊ะ! มารอบนี้เนื้อสีดูนิ่มลงนะเออ ฝนง่ายขึ้นเยอะเลย สีใหม่เขาปรับปรุงนี่ก็สดไม่เบา ใช้ได้ๆ เอาละ ไว้เราจะพาเจ้าไปเที่ยวด้วย


นี่หาใช่ภาพการเเตกหน่อของเเบคทีเรียเเต่อย่างใด มันคือดอกHydrangea จากGoogle  ฮ่าๆๆ ไม่ขี้เหร่เกินไปใช่ไหมคะ


เอ๊ะ! ไอดินสอสีรอยฟันหนูพวกนี้ล่ะ มันมาเเต่อย่างใด ใช่เเล้วมันคือดินสอสีcolleenที่ได้ผ่านสงครามมามากมายเเละเก็บไว้ในกรุส่วนลึกสุดของบ้านเป็นเวลาหลายหมื่นปี เห็นไหมว่ามันเป็นทรงกระบอก! รุ่นใหม่ที่วางขายอยู่ก็มีทรงกระบอกนะเออ ไม่เเน่ใจเหมือนกันว่าต่างกันขนาดไหน เเต่เอาเเบบเหลี่ยมมาเพราะไม่อยากให้มันกลิ้งตกโต๊ะ 


เป็นไปอย่างที่คิด เราไม่ได้เพ้อไป สีเก่าที่เคยใช้มันแห้งๆ ฝาดๆ กว่าจริงๆด้วย เเต่สียังใช้ได้อยู่เลยนะเออ


"ถึงเเก่เเต่ผมยังสดนะครับ" ดินสอสีวัยทวดกล่าว


อ่าว เเล้วนิเราไปเจออะไรเข้าในกรุอีกเนี่ย แกมาเเอบอยู่ในนี้จนข้าลืมเเล้ว มาเเต่ใด!?! หน้าตาละม้ายคล้ายพานพบกันมาก่อน


ซูมเข้าไปดูใกล้ๆ โอ นี่มันของ Master Art นินา ลืมไปเลยว่าเคยใช้ด้วยสมัยก่อน ไม่รู้ว่ารุ่นใหม่ๆ ของMaster Art มันยังเเห้งอยู่ไหม วันหลังต้องลองซะเเล้ว

มีเรื่องเล่าที่น่าสนใจไว้ใช้ประกอบการตัดสินใจซื้อของ ระหว่างปากกาสามเเท่ง กับปากกาเเท่งเดียวมีสามหัว ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอะไร? เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่สนามบินนาริตะหน้าชั้นสินค้าปากกาUni-ball สมัยที่มันยังไม่ดังในไทย! หลังจากชั่งใจอยู่นานว่าจะสามหัวหรือจะสามเเท่ง ก็เลยลองหันไปถามเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดขณะนั้น "แบบไหนดีกว่าวะ" เพื่อนผู้ดำเนินชีวิตตามสมองอันชาญฉลาดของมันมากกว่าหัวใจก็กล่าวกลับมาด้วยน้ำเสียงเชิงวิชาการว่า "ก็ขึ้นอยู่กับว่าชอบเเบบไหน เอาไปใช้ทำอะไร เเต่ถ้าเป็นเรา  สามเเท่งเวลาหายมันก็ยังเหลือสอง เเต่เเท่งเดียวนิหมดเลยนะ" จริงของมัน ทฤษฎีนี้น่าจะใช้ได้ดีตอนสงครามข้าวยากหมากเเพง คว้าสามเเท่งเเล้วบินกลับไทย เเต่ท้ายที่สุดเเล้ว นิทานตอนจบในเเบบฉบับของคนอื่นไม่รู้ว่าจบอย่างไร เเต่ฉบับเราจบด้วย ไม่กี่เดือนต่อมาปากกาสามหัวก็มาอยู่ในกำมือเรา เเละเราสามคนก็อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ฮ่าๆๆ

ว่าเเต่ไอ 38 บาท สรุปซื้อมาเพื่อทดลองสินะ ใช่เลย... ลองสีจนหายคิดถึงเเล้วก็เปิดหาที่เที่ยวต่อ ไว้เราจะพานายไปเที่ยวด้วยนะ colleen นกสองหัว เอ๊ย! สีสองหัว...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น